7 สิ่งที่ผมได้จากการเขียนหนังสือครบ 7 ปี
1. เป็นนักอ่านที่ดีขึ้น
จะเขียนได้ดีต้องอ่านเยอะ ผมอ่านหนังสือคุ้มขึ้น 2-3 เท่า เพราะบางเล่มที่อ่านในฐานะนักอ่านก็สามารถกลับหยิบกลับมาเรียนรู้ในฐานะนักเขียนเพิ่มได้
2. มีวินัยและคิดเป็นระบบ
หนังสือ How to 240 หน้า ใช้เวลากว่า 100 ชั่วโมงเขียน สำหรับผมที่มีอาชีพอื่นด้วย ต้องวางแผน การเขียนให้ดี ฝึกวินัยที่จะทำให้ได้ตามแผน หนังสือ 1 เล่มฝึกให้เราคิดเป็นระบบ มองภาพใหญ่ได้ดี เพราะการเขียน เป็นการฝึกสมองแบบหนึ่ง
ช่วงที่เขียนหนังสือต่อเนื่อง จะรู้สึกได้เลยว่าสมองไวกว่าเดิม ได้ไอเดียดี ๆ ทั้งงานและธุรกิจ
3. เป็นนักเล่าเรื่องขั้นเทพ
ถ้าอ่านหนังสือ 100 เล่มเราจะมีคลังเรื่องเล่าหลักร้อย พูดอะไรใครก็อยากฟัง ผมชอบเอาเรื่องเล่าไปสอนลูกก่อนนอน ทุกวันนี้เขาจำเรื่องที่ผมสอนตรง ๆ ไม่ได้ แต่ยังจำเรื่องเล่าเมื่อสองปีที่แล้ว ที่ผมหยิบมาจากหนังสือได้อยู่เลย การเขียนหนังสือทำให้เราหยิบประสบการณ์ในชีวิตตัวเอง เปลี่ยนเป็นเรื่องเล่าทรงพลัง จนคนรู้สึกประทับใจและจดจำได้ Leader ในองค์กรทุกคนจึงควรฝึกฝน เป็นนักเขียนและนักเล่าเรื่องด้วย
4. เพิ่ม Self Esteem
ตอนออกจากงานประจำผมรู้สึกตัวเล็กมากๆ ถึงการมีตัวตนในสังคม แต่ทุกครั้งที่เขียนหนังสือได้สำเร็จ ข้างในของผมจะบอกว่า “เก่งใช้ได้นะเรา” ทำให้ผมมีความมั่นใจตัวเองสูงขึ้น พอเคารพตัวเองมากกว่าเดิม การทำงานทุกอย่างก็ออกมาดีด้วยได้งานง่าย ลูกค้ามั่นใจ อยากบอกต่อ ที่คนให้ความชื่นชมนักเขียนก็เพราะ เขารู้ว่ามันไม่ง่ายที่จะเขียน ถ้าเราทำได้
เราก็ได้ทั้งคำชมจากตัวเองและคนอื่น
5. มีรายได้เพิ่ม
แม้หนังสือไม่ใช่แหล่งรายได้หลักผมแต่ถ้านับรายได้ตลอด 7 ปีจากมัน ก็มากพอจนผมตกได้เหมือนกัน อยากบอกว่ามีคนไทยที่ขายหนังสือปกเดียวแต่มียอดขาย 100,000 เล่มด้วยนะ (ลอง Search “ฉลองครบ 100,000 เล่ม” ดู) ดังนั้นคนที่มีหนังสือมากกว่า 1 ปก และมียอดขายสะสมเกิน 100,000 เล่ม ย่อมมีจริงและมีมากกว่า 1 คนแน่นอน ถ้าทุกเล่มนักเขียนได้
10% ของราคาปก
หนังสือราคา 250 ก็ได้ 25 บาท
100,000 * 25 = 2,500,000 บาท
เยอะจนตกใจได้อยู่เนอะ ^^ เงินจำนวนนี้เอาไปโปะบ้าน เก็บออมไปซื้อรถไฟฟ้าดี ๆ ได้ 1 คัน จ่ายประกันบำนาญ หรือเอาไปออมหุ้นปันผล ทำ Passive Income ได้อีกรอบ ที่สำคัญหนังสือเป็น Passive Income เขียนครั้งเดียวทำเงินได้หากยังมีคนต้องการ (เล่มที่เขียนแล้วมา 5 ปีก็ยังทำเงินให้ผมทุกเดือน)
6. ได้รับโอกาสใหม่ ๆ ในชีวิต
ผมได้รับเชิญให้ไปบรรยายกว่า 700 ครั้ง ได้ออกรายการของตลาดหลักทรัพย์ ได้เปิดตัวหนังสือที่ ห้องสมุดมารวย, SCB Academy ก็เพราะเป็นนักเขียนเลยครับ เพราะหนังสือคือ Portfolio ที่ทรงพลัง ทำงานให้เราได้ 24 ชั่วโมงอีกต่างหาก
คนเจอตัวจริงของเรายากกว่าเจอหนังสือของเราแน่นอน
7. สร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นและตนเอง
ผมใช้หนังสือเป็นของขวัญวันเกิดให้ป๊า แทนความกตัญญูที่มีต่อท่าน ต้นแบบของการรักการอ่านใช้มันเป็นหลักฐานของความพยายามให้ลูก ๆ ได้เห็นเป็นแบบอย่างว่าถ้าตั้งใจทำอะไรก็สำเร็จ นอกจากนี้สิ่งที่คนไม่เคยเป็นนักเขียนยากจะมีโอกาสได้รับ คือคำขอบคุณ ที่มาจากทั่วสารทิศของประเทศ เพราะหนังสือของเราอาจไปเปลี่ยนวิธีคิด วิธีใช้ชีวิตของใครสักคนแล้วทำให้ตัวเขาและคนรอบข้างดีขึ้นโดยไม่รู้ตัวก็ได้รวม ๆ แล้วผมคิดว่าการเขียนหนังสือ มีประโยชน์มากกว่าโทษ
มาเป็นนักเขียนกันเถอะครับ
คอร์สเขียนได้ขายดี How to make bestseller book
รุ่นสุดท้ายของ ปี 2023
#HowToMakeBestSellerBook
#เขียนได้ขายดี
#เซนเซแป๊ะ
#สรุปให้